รถในฝันเหมือนบ้านหลังที่สอง ?

รถยนต์ก็คือยานพาหนะ จะเหมือนบ้านได้ยังไง ? แต่อยากให้ลองคิดดูดีๆประเทศเรารถติดมากตั้งแต่เช้า ยันเย็น ทำให้บางคนใช้เวลาอยู่ในรถยนต์มากกว่าบ้านเสียอีก หรือแม้กระทั่งบางอาชีพ ที่จำเป็นต้องอยู่ในรถมากกว่าอยู่บ้าน เช่น พนักงานขับรถ, เซลล์, ขับแท็กซี่, พนักงานขนส่ง และอีกมากมายจึงเห็นได้ว่าปัจจุบันรถยนต์เป็นส่วนสำคัญในการใช้ชีวิตของมนุษย์ ไม่แพ้กับการมีบ้านเลย แม้ว่าใครหลายคนจะมองว่าการซื้อรถยนต์เป็นการสร้างภาระให้กับตัวเอง แต่หากพิจารณาดูดีๆ จะเห็นได้ว่ารถยนต์ก็มีประโยชน์หลายด้านเช่นกัน

วันนี้ DTS Auto Group จะพาคุณไปพบกับประโยชน์ของการมีรถยนต์ส่วนตัว

 

รถในฝันเหมือนบ้านหลังที่สอง

1. รถยนต์สามารถเติมเต็มความรักให้ครอบครัว ?‍?‍?

นอกจากบ้านจะเป็นสถานที่สร้างความรัก สร้างความผูกพันให้กับคนในครอบครัวแล้ว รถยนต์ก็คือส่วนเติมเต็มความรักให้ครอบครัวเช่นกัน การมีรถยนต์คุณจะได้ใช้อยู่เวลากับครอบครัวได้มากขึ้นกว่าเดิม คุณสามารถส่งลูกไปโรงเรียนได้ แถมยังสามารถไปรับ-ไปส่ง พ่อ แม่ หรือแฟนของคุณได้อย่างไม่ต้องกังวลกับการเดินทาง แถมยังสร้างความสะดวกสบายสุดๆ และที่สำคัญการมีรถยนต์คุณจะสามารถพาครอบครัวไปเที่ยวพร้อมกันได้ การพาครอบครัวไปเที่ยวนอกจากคุณจะได้พักผ่อนแล้ว คุณจะเป็นคนที่พาความสุขมาให้คนในครอบครัวของคุณได้อีกด้วย น่าภูมิใจสุดๆ

รถในฝันเหมือนบ้านหลังที่สอง

2. รถยนต์สร้างความบันเทิงได้ ?

แม้ว่าบ้านของคุณจะมีความบันเทิงอยู่มากมาย แต่รถยนต์ก็สามารถสร้างความบันเทิงได้เหมือนกัน รถยนต์มีทั้งเครื่องเล่น วิทยุ CD MP3 จอภาพ LCD คุณจะสามารถฟังเพลงโปรดของคุณสถานที่ไหนก็ได้อยู่ในรถยนต์ออเจ้าก็สามารถติดตามละครเรื่องบุพเพสันนิวาสได้เหมือนกัน เพียงแค่เสียบ USB ก็ดูได้สบายๆ สนุกไม่แพ้กับการดูทีวีที่บ้านเลย

รถในฝันเหมือนบ้านหลังที่สอง

3. รถยนต์เป็นที่เก็บของชั้นดี ?

รถยนต์ก็เหมือนบ้าน เก็บของได้เหมือนกัน คุณเคยเจอปัญหานี้ไหม ซื้อของมาเต็มมือ ถือไว้ก็หนัก จะเอากลับบ้านก็ยาก จะไปเที่ยวต่อก็ไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าจะเอาของไปฝากใคร แต่ถ้าคุณมีรถยนต์ส่วนตัวปัญหาเหล่านี้จะเป็นเพียงเรื่องง่ายนิดเดียว คุณเพียงแค่เอาของเก็บไว้ในรถ คุณก็จะสามารถไปทำงาน หรือไปเที่ยวต่อได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาเอาของไปเก็บที่บ้านก่อน สะดวกสบายได้มากเชียวแหละ

รถในฝันเหมือนบ้านหลังที่สอง

4. รถยนต์เป็นที่พักผ่อนของคุณได้ ?

หนึ่งในข้อดีของการมีรถยนต์ส่วนตัวคือ หากคุณออกไปข้างนอก หรือเดินทางไกลๆ แล้วรู้สึกเหนื่อยล้า อยากพักผ่อน คุณไม่ต้องไปนั่งตากแดดให้มันร้อนเลยค่ะ เพียงแค่คุณอยู่ในรถ เปิดแอร์เย็นๆ ฟังเพลงเพราะๆ สบายกาย สบายใจสุดๆ อยากนอนก็ปรับเบาะ งีบสักหน่อย แล้วค่อยลุยต่อ!

รถในฝันเหมือนบ้านหลังที่สอง

5. มีรถยนต์ก็เหมือนมีห้องน้ำ ?

ขนาดฟ้าฝนยังห้ามไม่ให้ตกไม่ได้ นับประสาอะไรกับท้องใส้ของมนุษย์! คนเราไม่รู้ว่าข้าศึกจะบุกมาตอนไหน สำหรับคนที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัวก่อนจะเดินทางแต่ละครั้ง ไม่ว่าจะใกล้ ไกล ก็ต้องมีการวางแผนการเข้าห้องน้ำทุกครั้ง หากเริ่มรู้สึกว่าอยากเข้าห้องน้ำก่อนเดินทาง ก็ยังทันไปเข้าห้องน้ำได้ แต่หากอยู่บนรถแล้วปวดขึ้นมากระทันหันนี้สิ ! เป็นสิ่งที่ทรมานสุดๆ แต่ถ้าคุณมีรถยนต์ส่วนตัว คุณอยากเข้าห้องน้ำเมื่อไหร่ คุณก็ยังสามารถแวะปั้มที่ไหนก็ได้

รถในฝันเหมือนบ้านหลังที่สอง

6. รถยนต์เป็นห้องอาหารส่วนตัว?

มีรถยนต์ก็เหมือนมีห้องอาหารส่วนตัว หลายคนมันจะชอบรับประทานอาหารในรถ แม้ในยามฉุกเฉินรถยนต์ก็เป็นห้องอาหารที่ดีให้กับคุณได้ เช่นลูกคุณยังไม่ได้กินข้าวเช้าคุณก็สามารถให้ลูกคุณรับประทานอาหารในรถได้ หรือวันไหนที่ตัวคุณเองตื่นสาย กลัวไปทำงานไม่ทัน ก็อาจรับประทานอาหารในรถเลยรับรองว่ารับประทานอาหารในรถ อร่อยไม่แพ้กับรับประทานอาหารห้องครัวที่บ้านเลย !

รถในฝันเหมือนบ้านหลังที่สอง

7. รถยนต์ซื้อเวลาของคุณได้ ⏳

หากบ้านเป็นสถานที่พักผ่อนของคุณ รถยนต์ก็เป็นสิ่งอํานวยความสะดวกหนึ่ง ที่ทำให้คุณมีเวลาพักผ่อนได้มากกว่าเดิม หากปัจจุบันคุณเป็นคนหนึ่งที่เดินทางด้วยรถสาธารณะ ถึงแม้ว่ารถสาธารณะจะมีราคาประหยัด แต่คุณต้องแลกมาด้วยเวลา คุณต้องรอรถกว่าจะมาต้องใช้เวลานานแสนนานบางครั้งก็ส่งถึงที่หมาย หลายครั้งก็ให้ลงก่อนบ้าง แถมหลายคนต้องต่อรถหลายครั้ง วุ่นวายกันไปหมด กลับเช้าก็คนเยอะ กลับดึกก็กลัวอันตราย สู้มีรถส่วนตัวดีกว่าคุณจะได้กลับบ้านไปพักผ่อน แล้วตื่นมาทำงานมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม

เห็นไหมคะว่า การมีรถก็เหมือนบ้านหลังที่สอง แต่การซื้อรถยนต์บางครั้งก็ไม่จำเป็นต้องซื้อรถราคาแพงๆ และสวยหรูอะไรมากนัก อาจเป็นรถมือสองก็ได้ แค่มีรถไว้ใช้เพื่มความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต ตามกําลังทรัพย์ของเราที่มี เพียงแค่นี้ก็อาจจะเป็นสิ่งเติมเต็มให้ชีวิตของคุณมีความสุขมากขึ้นได้

ถึงอย่างนี้แล้ว ทาง DTS Auto Group ก็อยากให้เพื่อนๆ พิจารณากันดูนะคะ ว่าหากเรามีรถยนต์ขึ้นมา จะมีข้อดี หรือเสียมากกว่ากัน ?

หากชอบบทความนี้ สามารถแชร์ด้านล่างได้นะคะ