พฤติกรรมเสี่ยง! ที่ควรเลี่ยงขณะขับรถ ⛔?
การขับรถย่อมมีความเสี่ยง! แต่ความเสี่ยงส่วนมากจะมาจากพฤติกรรมของผู้ขับเองซึ่งหลายคนไม่รู้ ไม่ใส่ใจพร้อมๆ กับการมองข้าม และทำจนคุ้นชินในขณะขับรถ และนึกว่ามันเป็นเรื่องปกติในสมัยปัจจุบัน! แต่แท้จริงแล้วพฤติกรรมเหล่านี้มันอาจจะเป็นเหตุที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงกับคุณ และเพื่อนร่วมทางได้เช่นกัน!
เราลองมาดูว่าพฤติกรรมไหนบ้างที่ควรจะเลี่ยงในขณะขับรถ!
1. ไม่ทำกิจกรรมอื่นในขณะขับขี่ ??
การจับพวงมาลัยมือเดียวเป็นเรื่องปกติที่หลีกเลี่ยงได้ยาก โดยส่วนมากจะเป็นเพราะพฤติกรรมของคนขับเองเช่น การแต่งหน้า ทานอาหาร เล่นโทรศัพท์ สูบบุหรี่ การหยิบของ หรือแม้กระทั่งการบิดขี้เกียจ สิ่งกิจกรรมเหล่านี้อาจจะทำได้ในบางกรณี เช่น รถติดไฟแดง รถจอดอยู่ แต่ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะทำในขณะที่รถมีการเคลื่อนไหว เพราะแน่นอนว่าการทำกิจกรรมเหล่านี้ในรถ มันจะบังคับให้คุณจับพวงมาลัยได้เพียงมือเดียว! อีกทั้งยังต้องใช้สายตาของคุณจดจ้องไปที่อื่นมากกว่าบนท้องถนน ส่งผลให้ความสามารถในการควบคุมรถนั้นลดลงไปมาก “สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง” ไม่มีสุภาษิตคำไหนเหมาะสมเท่าคำนี้อีกแล้ว อย่าคิดว่าสิ่งที่คุณทำเป็นประจำ ถ้ามันสะดวกก็อยากทำต่อ ถ้าในอนาคตเกิดอุบัติเหตุขึ้น มันก็จะไม่คุ้มต่อพฤติกรรมเสี่ยงนี้อย่างแน่นอน ในขณะที่รถเคลื่อนไหว ควรจับพวงมาลัยอย่างถูกต้อง และถ้าเป็นไปได้ก็ควรจับพวงมาลัยในตำแหน่งที่ต้องมากที่สุดคือ มือซ้ายที่ 9 นาฬิกา และมือขวาที่ 3 นาฬิกา
2. เปิดเพลงเสียงดัง ?
การเปิดเพลงในรถอาจจะทำให้คนในรถยนต์สนุกได้ แต่มันมักจะดังเกินไปในหลายๆ ครั้ง จนคุณไม่รู้เลยว่ารถที่ขับมาใกล้ๆ ได้ส่งสัญญาณเตือนอะไรให้เราหรือไม่ หรือในบางครั้งเราจะไม่รู้เลยว่ารถยนต์ของเรามีเสียง หรือมีอะไรผิดปกติไปจากเดิมหรือไม่ พฤติกรรมเสี่ยงเหล่านี้อาจจะอาจจะก่อให้เกิดอุบัติเหตุ อีกทั้งการเปิดเพลงเสียงดังๆ เกินมาตรฐานยังสร้างความรำคาญให้แก่ผู้อื่น และอาจจะทำให้คุณเสี่ยงที่จะได้เผชิญหน้ากับตำรวจ หรือคนที่ไม่พอใจ มากกว่าเดิม!
3. ถอดรองเท้า ?
การขับรถนานๆ ผู้ขับมักจะเมื่อยเท้า วิธีแก้ก็คือถอดรองเท้าจะได้ผ่อนคลาย! การถอดรองเท้าสามารถทำได้ในตอนขับรถ(ขับคนเดียวน่าจะดีที่สุด) แต่การถอดรองเท้าแล้ววางรองเท้าไว้ใกล้ๆ นั้นอันตรายอย่างมาก เพราะรองเท้าสุดที่รักที่เราถอดไว้ อาจจะทำร้ายชีวิตคุณได้! โดยการที่รองเท้าอาจไหลเข้าไปติดใต้แป้นเบรก และเมื่อต้องการเหยียบเบรก จะติดรองเท้าที่เราถอด ทำให้เบรกได้ไม่ลึก และไม่สามารถหยุดรถได้ ดังนั้นควรเลือกใส่รองเท้าที่สวมสบาย และเหมาะสมกับการขับรถเพื่อความปลอดภัยนะคะ
4. นั่งพับขาซ้าย ?
การขับรถระบบเกียร์อัตโนมัตินั้นสะดวกสบายสุดๆ ไม่ต้องเหยียบคลัตช์ให้มันยุ่งยาก บางคนก็คิดว่าเท้าซ้ายไม่ได้ทำอะไร ประกอบกับรถติดนานอาจเมื่อยล้า หลายคนจึงลืมตัวพับขาข้างซ้ายขึ้นเพื่อคลายเมื่อย แต่คุณรู้หรือไม่? การนั่งลักษณะนี้มีผลให้ผู้ขับ ควบคุมรถได้ไม่มั่นคงอย่างแน่นอน ถ้าหากรถเกิดกระแทก ตกหลุมบ่อจนกระเด้งมากๆ อาจทำให้ควบคุมพวงมาลัยได้ไม่ดีนัก ควรหลีกเลี่ยงการนั่งลักษณะนี้เป็นดีที่สุด
5. คิดเยอะ จนเหม่อลอย ?
หลายคนคงเคยเป็น การที่เราขับรถอยู่คนเดียวมักจะชอบคิดถึงเรื่องต่างๆนานา โดยเฉพาะคนที่จิตตก หรือคิดเยอะมากกว่าชาวบ้านยิ่งไปกันใหญ่ เพราะพฤติกรรมเสี่ยงเหล่านี้ก็เป็นเหตุที่จะก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้มากเหมือนกัน เพราะโดยหลักแล้วการขับรถต้องใช้ประสาทสัมผัสทั้งการมอง การฟัง และการทรงตัว แต่ถ้าในระหว่างขับรถสมองคุณมาคิดแต่เรื่องอื่นมากจนเกินไป จะทำให้ประสิทธิภาพในการขับรถ และประสิทธิภาพในการตัดสินใจของคุณลดลงได้มาก ฉะนั้นในระหว่างขับรถควรตั้งสติให้มากๆ และสำหรับบางคนจะใช้วิธีการเปิดเพลง จะช่วยคุณได้มาก!
6. เปิดไฟฉุกเฉินเพื่อต้องการตรงเมื่อผ่าน 4 แยก ?
เมื่อถึงทาง 4 แยกหากเราต้องการไปข้างหน้าก็ต้องเปิดไฟฉุกเฉินเพื่อเป็นสัญญาณบอกรถคันอื่นๆ ว่าเราต้องการตรง นี่เป็นความคิดที่ผิดมหันต์! แถมยังผิดกฎจราจรอีกด้วย หลายๆ คนไม่เคยรู้ เพราะการเปิดไฟฉุกเฉินเมื่อต้องการตรง รถที่ผ่านมาข้างๆ ฝั่งใดฝั่งหนึ่งจะเห็นไฟเลี้ยวเพียงข้างเดียวของรถเรา (โอกาสจะเห็นไฟเลี้ยวทั้ง 2 ข้างน้อยมาก) และอาจเกิดการเข้าใจผิดขึ้นได้ และนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุในที่สุด ดังนั้นหากขับผ่าน 4 แยก เพื่อตรงไปก็ไม่ควรเปิดไฟใดๆ เลย เพราะนั่นคือสัญญาณบอกว่าไม่ต้องการจะเลี้ยวอยู่แล้ว
พฤติกรรมเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้ในท้องถนนที่ผู้ขับไม่ควรจะละเลย แต่สิ่งที่ผู้ขับรถ และผู้ร่วมใช้รถใช้ถนนทุกคนควรใส่ใจก็คือ กฎจราจร และความมีมารยาท จะรถเล็กรถใหญ่ จะแพงหรือถูกย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องใช้ถนนร่วมกัน ควรตั้งสติ และมีน้ำใจให้กันทุกครั้งในการขับรถ
#คนรักรถ #ศูนย์รวมรถยนต์ดีที่สุดบริการ